เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๑ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” มอบของบริจาคและเลี้ยงอาหารผู้ด้อยโอกาส ที่สถานสงเคราะห์มารดาและบุตรอนาถาผู้ติดเชื้อเอชไอวี Hogar de Vida กรุงลิมา จำนวน ๘๐ คน และที่ศูนย์ช่วยเหลือและบำบัดสำหรับเด็กพิการซ้ำซ้อน และเด็กพิเศษผู้ยากไร้ San Francisco de Asís กรุงลิมา จำนวน ๒๐๐ คน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๖ พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ โดยมีนายอังกูร กุลวานิช อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมด้วยข้าราชการและครอบครัว พนักงานท้องถิ่นสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งจิตอาสา และชุมชนคนไทยในกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู รวมจำนวน ๒๐ คนเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาดังกล่าว

เวลา ๑๑.๐๐ น. ณ สถานสงเคราะห์มารดาและบุตรอนาถาฯ อุปทูตฯ ได้กล่าวถึงที่มาและความสำคัญของกิจกรรมจิตอาสาฯ ว่า เกิดจากการน้อมนำแนวพระราชดำริในการสนับสนุนให้คนไทยไม่ว่าจะพำนักอยู่ที่ใดทำความดีด้วยหัวใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มาเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมที่จักก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมทั่วไปโดยเฉพาะกับผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และเป็นดำริของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่จะจัดกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๖ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ สถานเอกอัครราชทูตฯ และชุมชนไทยในกรุงลิมาจึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสามอบของบริจาคและเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ ที่สถานสงเคราะห์ฯ Hogar de Vida แห่งนี้

นาง Gladys Leguía Puente ผู้อำนวยการสถานสงเคราะห์ฯ กล่าวถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความปลื้มปิติ ซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่ทรงสนับสนุนให้ประชาชนชาวไทยทั่วโลกปฏิบัติกิจกรรมจิตอาสาอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมเพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ และกล่าวขอบคุณที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และชุมชนไทยได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้แก่สถานสงเคราะห์ฯ รวมทั้งสนับสนุนค่าอาหารกลางวันแก่มารดาและบุตรอนาถาผู้ติดเชื้อเอชไอวีของสถานสงเคราะห์ฯ โดยถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจและเป็นการแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมที่ดียิ่งของชุมชนไทยในสังคมเปรูในระดับประชาชนกับประชาชนอย่างแท้จริง

จากนั้น อุปทูตฯ​ เป็นผู้แทนชุมชนไทยในกรุงลิมามอบหนังสือแสดงความชื่นชมสถานสงเคราะห์ฯ และบริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และสนับสนุนค่าอาหารกลางวันจำนวน ๑,๐๐๐.- โซเลส รวมทั้งส่งมอบสิ่งของบริจาคจากสถานเอกอัครราชทูตฯ และชุมชนไทยในกรุงลิมา อาทิ ผ้าห่ม เสื้อผ้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ข้าวสาร น้ำตาล ผงซักฟอก นมกระป๋อง ฯลฯ ให้แก่สถานสงเคราะห์ฯ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป โดยมีนาง Gladys Leguía Puente ผู้อำนวยการสถานสงเคราะห์ฯ เป็นผู้แทนรับมอบ

ต่อมาเวลา ๑๒.๑๕ น. ณ​ ศูนย์ช่วยเหลือและบำบัดสำหรับเด็กพิการซ้ำซ้อนและเด็กพิเศษผู้ยากไร้ San Francisco de Asís นางสาว Ana María Delgado รองผู้อำนวยการรักษาการศูนย์ฯ กล่าวต้อนรับนายอังกูร กุลวานิช อุปทูตฯ ข้าราชการพร้อมด้วยครอบครัว และพนักงานท้องถิ่นสถานเอกอัครราชทูตฯ ตลอดจนจิตอาสาและชุมชนไทย พร้อมกล่าวแสดงความขอบคุณด้วยความปลื้มปิติที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มาจัดกิจกรรมจิตอาสามอบของบริจาคและเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นักเรียนของศูนย์ฯ ซึ่งเป็นเด็กพิการซ้ำซ้อนและเด็กพิเศษผู้ยากไร้ ทางศูนย์ฯ รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างยิ่งในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีจิตแบ่งปัน และความโอบอ้อมอารีของชุมชนไทยในกรุงลิมา และได้กล่าวถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๖ พรรษาด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ขอให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และทรงพระเกษมสำราญตลอดกาลนาน

จากนั้น อุปทูตฯ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เพื่อสนองพระราชดำริที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้ปฏิบัติกิจกรรมจิตอาสาที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๖​พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร กิจกรรมนี้แสดงถึงการมีส่วนร่วมในสังคมเปรูและเพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุนประชาชนชาวเปรูโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด จากนั้น ได้มอบหนังสือแสดงความชื่นชมศูนย์ฯ และบริจาคสิ่งของและสนับสนุนค่าอาหารกลางวันจำนวน ๑,๓๐๐.- โซเลส รวมทั้งส่งมอบสิ่งของบริจาคจากสถานเอกอัครราชทูตฯ และชุมชนไทยในกรุงลิมา อาทิ เก้าอี้เข็นสำหรับเด็กพิการ ไม้ช่วยเดินสำหรับคนตาบอด ลูกคิด น้ำยาฆ่าเชื้อ ฯลฯ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและให้ศูนย์ฯ ได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไปโดยมีนาง Ana María Delgado รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ เป็นผู้แทนรับมอบ

จากนั้น กลุ่มตัวแทนนักเรียนผู้พิการทางสายตาได้จัดแสดงการร้องเพลงประกอบการเต้น ๑ ชุด และกลุ่มตัวแทนมารดาพร้อมบุตรผู้พิการทางการเคลื่อนไหวได้จัดแสดงการเคลื่อนเก้าอี้เข็นตามจังหวะระบำ Marinera ซึ่งเป็นระบำท้องถิ่นเปรู ๑ ชุด เพื่อแสดงความขอบคุณยินดี

ในช่วงท้ายของพิธีการคณะผู้บริหาร คณะครู นักเรียนและผู้ปกครองของศูนย์ฯ ได้ร่วมกันอธิษฐานจิตถวายพระพรชัยมงคลเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และชุมชนไทยได้ร่วมกันแจกอาหารและเครื่องดื่มให้แก่นักเรียนของศูนย์ฯ ก่อนที่จะเดินทางกลับ